ด้วยความมีเคราะห์หนัก วันนี้จึงวอแวอยากกินปลาดีๆ สักมื้อหนึ่ง
นึกขึ้นมาได้ว่าเห็น @merutosushi มาเปิดแถวบ้านแล้ว และเป็นร้านที่เคยวอแวจะไปกินตั้งแต่สมัยอยู่ ซ.นวลจันทร์ จนเค้าปิดสาขานี้ เหลือแต่สาทร ก็ยังไม่ได้ฤกษ์ไปกิน ส่วนนึงเพราะยังตราตรึงกับ Yoshisumi และผองเพื่อนอยู่มิรู้ลืม แถมยังโดน French Cuisine กับ Gastonomy แย่งคิวอยู่ช่วงนี้ แต่วันนี้ดวงดี โทรไปปุ้บ ว่างปั้บ ฮิฮิฮิ สาขาใกล้บ้านด้วย ไม่ต้องเผชิญความงอแงของคนขับรถที่บ่นว่าเข้าเมืองมันไกล รถติด จอดรถยาก ฯลฯ ออข้าแฮปปี้มาก
โอนเงินจองที่นั่งเรียบร้อย ก็นอนเล่นกับออเชสกี้ (แมวสุดที่รัก) และไปช่วยคุณสามีต่อกรงแมวไปพลางๆ…. เลือกคอร์ส 12 คำ 4,900 ไป (แต่พอมาที่ร้าน 12 คำ 5,900 แฮะ หรือว่าเป็น soft opening ก็ไม่แน่ใจ) พอถึงเวลาก็ออกจากบ้าน แป๊บเดียวก็มาถึงแล้วแถมที่จอดยังว่างๆ อีกด้วย
ป้ายหน้าร้าน
บรรยากาศในร้าน โปร่ง โล่ง สบาย สไตล์มินิมอล
ประเดิมเปิดต่อมรับรสด้วยสาหร่ายทะเล ซอส และยูสุ แค่คำนี้ก็อร่อยมากมาย (ข้าเจ้าเป็นแฟนยูสุ อะไรที่ใส่ยูสุมาข้าว่าอร่อยมากเสมอ 55555) ยูสุที่ร้านมาจากฟุกุโอกะ เริสป่ะล่าาา
ปลาหมึกหิงห้อย เชฟเล่าว่าปีนึงจะมีกินประมาณเดือนเดียว แรร์ไอเทมแบบนี้ข้าชอบ เชฟเหมือนรู้ตบด้วยประโยคว่า “เค้ามีน้อยเพราะชอบเปล่งแสงสีน้ำเงิน เลยล่อให้ปลาใหญ่มากินเค้า” ฮ้ายยยย เปล่งแสงว๊อบแว๊บด้วยเว้ยยย รีบกินเร็วรี่ อร่อยค่ะ ข้างในเหมือนมีเครื่องในของน้องหมึก ให้ความนัวเหมือนฟัวกราส์ ซ๊อสสีเขียวนั่นทำมาจากใบคินูเมะ ใบไม้ในชามนั่นหล่ะ รสออกมิ้นต์ๆ ผสมกับมิโสะ อูมามิ ผ่าน!!
ยูสุ ยูสุ ยูสุ
ท้องปลาคัตสึโอะรมควันกับฟาง โอวมันคือ มันดี มันหอม กรุบกรอบเนื้ออ่อนเอย
วาซาบิของร้านเป็นสายพันธุ์มาสึมะ ปลูกที่ชิสุโอกะ ข้าว่าข้าเคยไปฟาร์มนี้มาแน่นอน สายพันธุ์นี้ต้องปลูก 3 ปีจึงจะกินได้ ที่นิยมอีกสายพันธุ์คือมิโช ให้เวลาปลูกปีครึ่ง พันธุ์นี้จะน้ำเยอะกว่า อันนี้ก็แล้วแต่ชอบ 55555+

อามุระคิมาได แบบไม่เบิร์นหนัง เชฟบอกว่าพันธุ์นี้คือไม่ต้องเบิร์นหนังได้ ไม่เหนียวเชฟรับรอง เออ ไม่เหนียวจริงด้วยนะ ทุกทีจะกินแบบเบิร์นหนัง หรือถ้ามีเจอไม่เบิร์น ส่วนมากหนังก็จะเหนียวๆ แต่อันนี้คือละมุน โอ้วม่ายยยย…. ปรุงมาแบบนี้ โอ้ขุ่นพระ ข้าตาย ข้ายอมตาย คินมาไดเป็นปลามงคล อารมณ์ปลาสีทอง (คินแปลว่าทอง) เค้าให้กันเป็นของขวัญวันแต่งงาน เอาไว้ให้โชคดี แหมช่างเหมาะกับการสะเดาะห์เคราะห์ของข้ายิ่งนัก เอามาอีก 10 คำ!!
ชิมาจิ เนื้อมันๆเหมือนอาจิ ฮามาจิ คำนี้ไม่ต้องพูดถึง แค่ปลาดีก็อร่อยแล้ว มาเจอข้าวแดงอีก ฟินมากค่าาาา (บรรยายสั้นไม่ได้แปลว่าอร่อยน้อยนะ คือมันไม่สามารถบรรยายได้จิงๆ)
ซาบะสดจากนางาซากิ ปกติซาบะที่กินก็จะแบบดองหน่อยๆ มีสาหร่ายใสๆวางข้างบน เสิร์ฟตอนจะเปลี่ยนปลาอะไรแบบนี้ แต่ที่นี่คือไม่ ที่นี่มาอลังการ เป็นซาบะสด มีเครื่องสมุนไพรเขียวๆ ข้าวมีความนัวกำลังดี ห่อสาหร่ายที่ย่างด้วยหอยนางรม ใช่แล้วค่ะ! สาหร่ายคือกรอบ สด กลิ่นหอมมมมมมมมมมม แบบเอาไปเลยร้อยกะโหลก ไม่เคยกินสาหร่ายที่ไหนอร่อยแบบนี้ ขนาดที่มาซาโตะที่ว่าย่างสาหร่ายสดๆบนถ่านจนมีกลิ่นหอมแล้ว เจอความย่างด้วยหอยนางรมเข้าไป ชนะ!
โบตันเอบิ จริงๆ กุ้งมันก็คือกุ้งอะนะ ทุกทีจะไม่ชอบกุ้งหวานแบบมีเมือกเยิ้มๆ แหยะๆ แต่ถ้าโบตันก็โอเค ที่เคยกินมาแบบสดก็ดี แบบสุกก็ดี แต่นี่คือ ขุ่นพระ! ข้าวนี่มันคืออะไรกัน เชฟเฉลยว่าเค้าเอามันกุ้ง หัวกุ้ง ไปคลุกกับข้าว โอ่ว ม่ายยยยยยยยยยยยยย ชาติที่แล้วข้าทำกรรมอะไรไว้จึ่งต้องมาเจอสิ่งนี้ ข้าวคลุกมันปูที่ Ginza ที่ว่าแน่ ยังแแพ้ข้าวคลุกมันกุ้งที่นี่
เคลียร์ปากด้วยไช้เท้า ดอกขิง บ้วย ซ๊อส มะนาว ห่อสาหร่ายย่าง (รอบนี้สาหร่ายย่างปกติหล่ะ ไม่ได้ย่างหอยนางรมแล้ว เสียใจ….)
มาส่วนปลาแดง อาคามิสึเกะส่วนคอ ของที่ร้านเค้าโฆว่ามีการ เอจจิ้ง 5 วันเจ้าค่ะ เนื้อเลยนุ่ม ละมุนลิ้น อีกหน่อยแก่แล้วไม่มีฟันเคี้ยว ข้าจะกินแต่ปลาแบบนี้หล่ะ 555555+) ความสึเกะอร่อยนะ แต่ยังให้ Ginza เป็นอันดับหนึ่งอยู่
ชูโทโร่ไล่สีสวย มีความเท่าๆกันในทุกคำที่เสิร์ฟ ใช้ส่วนหลังไขมัน 50% ปลาคัดขนาด 80–120 กก. เท่าน้านนนน เอจมา 5 วันเหมือนกัล
มือของเชฟที่ดูหล่อเนอะ ^^
โอโทโร่ส่วนท้องล่าง เอจมา 5 วันเช่นกัลลลลล *** 3 คำนี้เป็นคำเด็ดในทุกร้านนะ กินยังไงก็ต้องบอกว่าอร่อย แต่ส่วนตัวเราว่ามันคือกันมากเกินไป คือมันรสเดียวกัน ปรุงคล้ายกัน น่าจะมีลูกเล่นที่ต่างกันมากกว่านี้ เช่น Aburi หน่อยมั้ย หรือมะนาวบ้าง เกลือบ้าง ซ๊อสบ้าง ไรงี้มั้ย จะได้ไม่ซ้ำกันเกินไป ***
สุดท้าย Baifun Uni ข้ารักอูนิ แต่ตั้งแต่ข้าได้กินสุดยอดอูนิไป อันอื่นๆ มันก็คือกันไปหมด ยังไม่มีอันไหนล้มแชมป์ได้เลย เชฟบอกการันตีความหวาน แต่ก็….อืมมมม อันนี้ต้องยอมรับว่ายังไม่ใช่ที่สุด ^^ (ถ้าไม่นับการเอา uni ไปรวมกับ caviar ใน french cuisine อ่ะนะ)
Meruto Don ข้าวจึ๋งนึง อัดแน่นด้วยปลาสับ อิคูระ ทรัฟเฟิล อูนิ แถมแปะทองมาด้วย #อะไรที่แปะทองอร่อยหมดจานนี้ยอมแพ้ ร้านลับที่ว่าแน่ยังแพ้ร้านนี้ #กราบสามทีแบมือให้ด้วย
ซุป อร่อยมากกกกกกกกกก โอ้ยยยยยยยยย ชนะทุกร้าน และคิดว่าชนะไปทุกชาติเลยให้ตายเหอะ เข้าใจทำมาก
ไข่หวาน อร่อยค่ะ อร่อยกว่าร้านอื่นๆที่จำได้เลย โอมาก
ยูสุเกล็ดน้ำแข็ง โอเค เหมือนร้านอื่นๆ อร่อยได้มาตรฐาน โดยรวมชอบมาก ต้องไปกินอีก
#สรุป
อาหาร 4.5/5
บรรยากาศ 4/5 ร้านตกแต่งแนวจี่ปุ่นนี่หล่ะ แต่มันไม่แคบๆไม่เบียดๆ หักคะแนนความโล่งกว้างไปหน่อย หวิว 555555
บริการ 3/5 บริการดี ขอหักคะแนนตรงเอาแก้วชาเราเข้าไปเติมข้างใน แรกๆก็ไม่คิดมาก หลังๆสังเกตเอ๊ะเก็บเข้าไปพร้อมกันหลายๆแก้ว แล้วตอนเอามาเสิร์ฟคือแก้วมีรอยกินไปแล้ว ไม่รู้รอยเรากิน หรือรอยใครกิน หวังว่าพนักงานจะจำได้นะว่าแก้วใครเป็นแก้วใคร ไม่งั้นหล่ะก็ แหวะ ยี้ จูบกับคนแปลกหน้าทางอ้อมเลอสิ
ระยะทางจากบ้านไปร้าน เอาไป 10 เต็ม 5 เลย ไม่ต้องฝ่ารถติดเข้าเมืองไปหากินอีกต่อไปแล้ว เย้! ยิ่งช่วงนี้ The Circle เงียบเป็นเมืองร้าง ฝ่าด่านติดหน้า Food Villa ปุ้บก็เข้าได้ปั้บ ไม่ต้องออคิว ไม่ต้องแย่งกันจอด แถมร้านยังมีที่จอดส่วนตัวของร้านให้ประมาณ 5–6 คันด้วย สบาย
ไปกินอีกแน่นอน ออเจ้ารอข้าได้เลย ต่อคิวไว้เลย เจอกันอีกแน่ๆ ปล. รีรันการอ่านนิยาย period เยอะไปหน่อยช่วงนี้ ตั้งแต่รัตนโกสินทร์ สองฝั่งคลอง บูรพา ราตรีประดับดาว คุยกับพี่นกก็เรียกตัวเองว่า “ข้า” ยังมาเจอแม่การะเกดออเจ้าออข้าอีก ตอนนี้กู่ไม่กลับเลยจ้าาาาา
Madame Mamuang : มาดามมะม่วง กิน เที่ยว ช้อป
FB/IG : Madame Mamuang
LINE : @madamemamuang
Like this:
Like Loading...
Related