อีกหนึ่งร้านน้องดาวที่ประทับใจ สมมงฯ 2 ดาวมากๆ ค่ะ ^_^
ขอบอกว่าการไปทานร้านนี้พร้อมกับนอนพัก 1 คืนที่ Lebua State Tower เป็นอะไรที่น่าประทับใจมากๆ ทั้งอากาศ บรรยากาศ อาหาร การบริการ ฯลฯ เรียกว่าดีครบทุกมิติเลยค่ะ

รีวิวนี้ทำท่าจะยาวมากเพราะมีอะไรหลายอย่างที่อยากเล่าด้วยความประทับใจจริงๆ เดี๋ยวจะพยามตัดเป็นช่วงๆ สำหรับคนที่อยากอ่านข้ามๆ นะคะ ^_^

มะม่วงเล็งร้านนี้มาหลายปีแล้วหล่ะ ตั้งแต่สมัยเค้ายังไม่มีระบบการให้ดาว แต่ด้วยความที่มีอะไรสักอย่างในใจคือเราเลี่ยงไม่ไปตึกนี้มาหลายทีหล่ะ อาจจะด้วยประสบการณ์อึดอัดคนเยอะในช่วงที่ตึกนี้พี้คไปด้วยผู้คนทำให้รู้สึกว่าไม่ค่อยสบายตัวพอสมควร ทำให้เราเลี่ยงที่จะไม่ไปตึกนี้มาพักใหญ่ๆ แต่ก็นั่นหล่ะ ช่วงนี้เกิดอยากไปขึ้นมา ก็เลยลองโทรไปจองกับทางห้องอาหารดูค่ะ ^^

ปรากฎว่าทางร้านมีโปรโมชั่น ร่วมกับ SCB เมื่อมาทาน 2 ท่าน ก็จะได้นอนพักที่ Lebua 1 คืนด้วยค่ะ

ประสบการณ์การจอง
– มะม่วงแจ้งกับทางโรงแรมว่าจะเป็นดินเนอร์ฉลองครบรอบแต่งงาน 10 ปี ทางพนักงานรับจองก็สอบถามว่าอยากให้เขียนหน้าของหวานว่าอะไร…. ใส่ใจมาก ให้ +1 เลยค่ะ
– พนักงานโรงแรมคุยรู้เรื่อง ถาม A ตอบ A ได้อย่างชาญฉลาด
– มีความลำบากนิดหน่อยตรงที่ต้องสะกดชื่อและนามสกุลเป็นภาษาอังกฤษสำหรับการจอง แต่ก็ถือว่าปกติสำหรับการเข้าพักโรงแรมระดับนี้ และพนักงานก็ทำงานได้อย่างคล่องแคล่วมากแล้ว โดยส่วนตัวก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำให้ดีกว่านี้ได้ยังไง แบบที่ไม่ต้องลำบากสะกดหน่ะ ก็เลยให้สามีเป็นคนจัดการ 55555+
– ในส่วนของการ pre-approve บัตร มัดจำ ฯลฯ สามีเป็นคนทำ มันก็เลยไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ 55555+

ประสบการณ์การเช็คอิน
– เมื่อไปถึงโรงแรม พนักงาน vallet ให้ค่ะ ได้จูงมือผู้ชายเข้าโรงแรมด้วยกัน ไม่ต้องแยกกันเข้าแบบกลัวโดนแอบถ่าย ฮิ้วววว
– เสื้อผ้าที่แขวนไป พนักงานเอาถุงครอบให้เรียบร้อยมาก รู้สึกว่าเค้าใส่ใจเสื้อผ้าเรายิ่งกว่าเราซะอีก น่ารักที่สุด
– พนักงานถามชื่อคนจอง เราบอกชื่อไป นางรู้ทันทีว่าคือใคร ห้องไหน คือไม่ต้องมาความหาชื่อ อ๊ะ โอ๊ะ แอ๊ะ ให้มีสะดุด ทุกอย่างลื่นไหลปรื้ดดด ทำให้เรารู้สึกสมู้ทแอนด์สบายมาก
– พนักงานพาไปเช็คอินที่ห้องพัก (ชอบบริการนี้มาก คือไม่ได้เที่ยวเมืองไทยนานจนไม่รู้ว่าสิ่งนี้เป็นมาตรฐานไปแล้วหรืออย่างไร หรือเป็นเพราะโควิท … แต่ฟิลที่มาถึงโรงแรมแล้วอยากไปห้องพักเอนหลังมันจะเจ้มจ้นมาก และการนั่งแกร่วที่ล๊อบบี้เช็คอินไม่คือเลย)
– กระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นไปถึงห้องพักเราก่อนที่เราจะไปถึง อยู่ในตู้เรียบร้อย
– ขั้นตอนการเช็คอินบนห้องก็ไม่นาน
– พนักงานเหมือนจะอาสาเอาของออกจากกระเป๋าให้ด้วย แต่เนื่องจากไม่มีอะไรเท่าไหร่ เลยบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ (บริการนี้เราเคยโหยหามากสมัยที่ไปพักหลายวัน เกลียดการรื้อและเก็บกระเป๋าเป็นที่สุด)
– พนักงานรู้โปรแกรมว่าเดี๋ยวเราจะมีไปดินเนอร์คืนนี้ และมีแนะนำให้ไปนั่งบาร์ก่อน/หลังดินเนอร์ได้ซึ่งบรรยากาศ roof top ดีมากๆ แน่นอน แต่ด้วยอากาศฝนพรำแบบนี้ก็เลยนอนกลิ้งดูวิวที่ห้องค่ะ

– จุดที่คิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ คือ early check in ได้เร็วกว่านี้ค่ะ อยากได้ฟิลตื่นเช้ามาออกจากบ้านไปพักผ่อนเลย แต่ด้วยความที่พนักงานตอบไม่ได้ว่าจะเข้าพักได้ก่อนบ่าย 2 มั้ย เค้าบอกว่าอาจจะได้หรือไม่ได้ต้องลองไปถึงก่อนถึงจะทราบ มันเลยแบบ….แกร่วอยู่บ้านรอเวลา ^^”

.

.

ในส่วนของห้องพัก
– พนักงานแจ้งว่าอัพเกรดห้องพักให้ มะม่วงพักชั้น 56
– ห้องพักจะออกแนว Chain Hotel อ่ะ คือเรียบร้อย สะอาด ดี แต่จะแห้งแล้งหน่อย ไม่มีความโฮมมี่เท่าไหร่ ไม่มีอะไรกระจุกกระจิกให้รู้สึกอบอุ่น
– ห้องน้ำกว้างดี น้ำร้อนแรงและเต็มอ่างเร็ว อยากให้สุขามีระบบกดอัตโนมัติด้วย ^^”
– มีมุมล้างจานเล็กๆ มีไมโครเวฟ ถ้วยชามนิดหน่อย และเครื่องชงกาแฟ // มีทีวี มีโต๊ะทำงาน (อยากให้หน้าโต๊ะทำงานมีกระจกด้วยจะได้แต่งหน้าข้างนอกห้องน้ำได้)
– วิวดีมากกกกกกกกกกกกกกก ยิ่งวันที่เข้าพักคือฝนพรำ มีหมอก อากาศเย็นสบาย ฟิน
– เตียงใหญ่กว่าปกติ รู้สึกฟินมากนอนได้ไม่เบียด จะนอนขวางเตียงคุณผู้ชายก็ไม่บ่นว่าเรานอนเต็มเตียงไม่เหลือที่ให้เค้า จนเริ่มมีความคิดว่าอยากให้เตียงที่บ้านใหญ่เบอร์นี้บ้าง 5555 เตียงไม่แข็ง แต่ไม่นุ่มไม่ฟลัฟฟี่หกดาว
– เนื่องจากเป็น Staycation คือมานอนกลิ้งเปลี่ยนบรรยากาศ รู้สึกว่าน้ำดื่มในห้องพักให้มาน้อยจัง และไม่อร่อยด้วย ก็เลยกดแกรปฮัสแบ่นไปซื้อน้ำแร่ที่เซเว่นให้หน่อย 555555+

.

.

.

ก่อนถึงเวลาดินเนอร์ เราไปเดินเล่นถ่ายรูปที่ Distil มานิดนึงค่ะ บรรยากาศกำลังดี ฝนพรำมาแบบ shower โอ๊ยยยย ฟิน… แต่ลมก็แรงมาก ถ่ายรูปมาหัวฟูแทบทุกรูปเลย T_T

.

.

ในส่วนของห้องอาหาร Mezzaluna
– เป็นมิชลิน 2 ดาว แนวอาหารคือฝรั่งเศส+ญี่ปุ่นค่ะ เชฟเป็นคนญี่ปุ่น
– พนักงานรู้ชื่อ รู้โต๊ะทันทีที่เราไปถึง และทำให้เรารู้สึกพิเศษได้ด้วยการบอกว่าจองโต๊ะมุมที่ดีที่สุดไว้ให้ (ซึ่งเราว่ามันก็โอเคทุกมุมนะ แต่เค้าทำให้เราฟิลสเปเชี่่ยลได้คือมันดีมาก)

– พนักงานใส่ใจมากกกกก คือร้านจะมีสเตปพื้นไม่เท่ากันเรื่อยๆ ทุกครั้งก็จะมีพนักงานเตือนว่าให้ระวังตรงนี้นะ เอาที่วางกระเป๋ามาให้ สามีมีกล้องก็เอาตั่งที่วางกล้องมาให้อีกตัว และพอมันทำท่าเกะกะมะม่วงที่ผุดลุกผุดนั่งถ่ายรูปบ่อยๆ นางก็ย้ายไปไว้ข้างสามีให้ จะลุกขึ้นถ่ายรูป นางก็มาเลี่อนเก้าอี้ให้ มีจุดนึงสามีเหมือนวางส้อมแล้วมันกลิ้งหล่นเงียบๆ พนักงานเอาผ้าร้อนมาให้เช็ดมือทันที (คือนางเอามาให้สามีมะม่วงคนเดียว เลยรู้เลยว่า อ้อออ นางสังเกตแน่ๆ) พนักงานสับเปลี่ยนกันมาดูแลเทคแคร์อย่างพอเหมาะ โต๊ะเราไม่ค่อยชอบคุยเค้าก็ไม่ชวนคุยจนอึดอัด แอบได้ยินโต๊ะข้างๆ ท่าทางจะชอบคุย เค้าก็คุยด้วยได้เรื่อยๆ
– การเสิร์ฟอาหาร ข้อแตกต่างระหว่างร้าน 1 ดาว กับ 2 ดาว คือ ร้าน 2 ดาว พนักงานจะเสิร์ฟอาหารให้เรากับสามีเราพร้อมกัน ในจังหวะที่เท่ากัน แต่ท่วงท่าอาจจะไม่ได้สวยพริ้วเหมือนการแสดงอย่างร้านที่ได้ 3 ดาว (ที่เคยไปทาน Le Cinq, Four Seasons, Paris) และช่วงเปลี่ยน utensils จะมาคนเดียวทำให้ใช้เวลานานเป็น 2 เท่า ต้องกลั้นใจหยุดกระหนุงกระหนิงนานแพพนึง ^^” แต่เรียกได้ว่าเป็นสเตปที่เห็นได้อย่างแตกต่างจากร้าน 1 ดาว และที่ประทับใจมากคือพนักงานจะไม่เสิร์ฟอาหารแทรกตรงกลางระหว่างเรากับสามีเลยค่ะ จะไม่มีการมาทำลายความสวีท ความอะไรใดๆ ก็ตามที่เราทำอยู่ จังหวะเค้าดีและละมุนมากๆ อันนี้คือประทับใจมากเลย เป็นดินเนอร์ที่ได้ใช้เวลาอยู่กับสามีและความกระหนุงกระหนิงจริงๆ (เคยไปร้านดาวบางร้านคือเสิร์ฟอาหารผ่ากลางเราสองคนมาเลย ผ่ามาอย่างน่าตกใจหลายครั้งจนมะม่วงต้องบอกว่า ช่วยเสิร์ฟจากด้านข้างได้ไหมคะ ^^)
– ในส่วนของอาหาร เราเลือกคอร์ส 6500++ อาหารดีค่ะ วัตถุดิบดี หลากหลาย อร่อย มีที่มาที่ไปมาเล่าให้ฟัง เทคนิคมาครบมาตรฐานความเป็นมิชลิน อาจจะไม่ได้มีอะไรว้าวแปลกใหม่เป็นเทคนิคหรือพรีเซนเทชั่นที่ไม่เคยเจอมาก่อน แต่คือเค้าดีตามมาตรฐานสองดาวของเค้าอ่ะ
– ที่นี่เค้าสามารถเพิ่มคอร์ส Oyster และ Caviar ได้ค่ะ

.
อาหารอร่อยทุกคอร์สเลย ^____^ มากินเถอะ มันดีย์

.

หลังจากอิ่มแล้วก็ได้เวลาเดินเล่นถ่ายภาพทั่วโรงแรมค่ะ ตอนนี้เค้ากำลังมีแคมเปญ The World’s First Vertical Destination ด้วยนะ ประมาณว่ามาอยู่ที่นนี่มีครบทุกสิ่งเลยหล่ะ ซึ่งถ้าเทียบกับสมัยก่อนที่มะม่วงเคยมา จะมีแค่ Sirocco, Distil, Mezzaluna เท่านั้นเอง แต่ตอนนี้มี Breeze, Lebua No.3, PinkBar เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย และที่สำคัญคนน้อยมากๆ และพนักงานดูแลลูกค้าทั่วถึงมากๆ เลยค่ะ เรียกว่า ‘สบายดีไหม จะไปทางไหน เดินมายังไง มากับใครรึป่าว’ พนักงานจะเข้าชาร์จดูแลตลอด ชอบความมาช่วยถือของ มาช่วยส่องไฟถ่ายรูปมากๆ ได้รูปสวยๆ มาตู้มเลย อิอิ

.

เดินจนทั่วก็กลับไปนอนกลิ้งบนห้องต่อค่ะ ^^

.

.

เช้าวันต่อมา …. ตื่นมาด้วยอากาศฉ่ำๆ อีกเช่นเคย และดีมากที่โรงแรมนี้ให้ทานมื้อเช้าได้ถึง 11 โมง (โรงแรมไหนให้ทานได้ถึง 10 โมงคือบายยย…. ลุกไม่ทัน 55555)

อาหารเช้าเป็นแบบสั่งทานได้ค่ะ สั่งได้ไม่อั้นเหมือนบุฟเฟ่ต์นี่แหล่ะ แต่เค้านำมาให้ที่โต๊ะ ทุกอย่างก็มาอย่างพอเหมาะลงตัวทั้งปริมาณและการจัดจานก็เรียบร้อยสวยงาม

.

.

อิ่มบรันซ์พุงกาง ก็กลับมานอนกลิ้งๆ ดื่มด่ำบรรยากาศที่ไม่ได้ไปค้างนอกบ้านมานานนนนน แสนนาน
จนบ่าย 2 ก็ check out แล้วกลับบ้านค่ะ ^_^

.
.
เป็น #Staycation ที่โหยหามากกกก และรู้สึกประทับใจมากๆ เลย จริงๆ ตั้งแต่เปิดเมือง มะม่วงมีไปดินเนอร์นอกบ้านบ้างเหมือนกันนะ แต่บางครั้งก็ไม่ประทับใจเท่าไหร่ รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวกับการต้องออกมาข้างนอก รู้สึกว่าอยู่บ้านดีกว่าจนไม่อยากจะมาเขียนรีวิวแนะนำเลย แต่ทริปนี้เป็นทริปที่ดีมากๆ ประทับใจในพนักงานของที่นี่โดยเฉพาะเรื่องการทำให้เรารู้สึกเป็นคนพิเศษและทุกอย่างไหลลื่นอย่างไม่สะดุด, ประทับใจ Mezzaluna ทั้งอาหารและบริการเลยค่ะ
.
กลับมาบ้านได้ 2 ชั่วโมงถึงขั้นคิดว่าอยากไปอีก ลองจิ้มดูวันลอยกระทง อ้าวแหม สิ้นเดือนนี้แล้วหรอ ><
.
สัปดาห์หน้ามะม่วงจะไปลองโอมาคาเสะร้านใหม่ที่พึ่งเปิดและเต็มเร็วมากกกก จองต้นเดือนได้คิวเกือบสิ้นเดือนแหน่ะ แล้วถ้าประทับใจอย่างไรจะมาชักชวนให้ไปตำนะคะ ^_^
.
.
.
.
Madame Mamuang : มาดามมะม่วง กิน เที่ยว ช้อป
FB/IG : Madame Mamuang
LINE : @madamemamuang
อ่านรีวิวย้อนหลัง >>> http://www.madamemamuang.com